ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ 19 จุดเชคอินต้องห้ามพลาด ไอซ์แลนด์ไม่ได้มีดีแค่แสงเหนือ อัพเดตล่าสุด (รีวิวที่เที่ยวไอซ์แลนด์)
ไอซ์แลนด์ ประเทศที่สถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังเรื่องความงามของธรรมชาติ นี่คืออีกหนึ่งเส้นทางในฝันของ Little Angel ปักหมุดไว้ จะต้องไปเยือนที่เที่ยวไอซ์แลนด์ก่อนตายให้ได้ แล้วความฝันก็เป็นจริง Little Angel ก็ได้ไปก่อนตาย ไม่พูดเว่อร์เกินจริง เพราะประมาณสองเดือนก่อนเดินทางก็มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด คือ Little Angel เกิดป่วยด้วยโรคหลอดอาหารตีบ อาการหลักๆ คือ กินอะไรไม่ได้ จะอาเจียนออกมา ทำให้น้ำหนักลดลงเรื่อยๆ อ่อนแรง แต่ Little Angel ได้เข้ารับการรักษาตลอดมา ทางทีมงาน Viego Group ผู้เชี่ยวชาญเส้นทางสแกนดิเนียและไอซ์แลนด์ก็ได้สอบถามความพร้อมก่อนเดินทางคำตอบเดียวของ Little Angel ที่มี คือ ไป และได้ทำการปรึกษาคุณหมอเตรียมตัวก่อนเดินทางเรียบร้อยแบบว่า ถึงป่วยก็จะไปไอซ์แลนด์
ทริปนี้ บินด้วยสายการบินฟินแอร์ สายการบินบริการดี อาหารดี ฟูลเซอร์วิส เดี๋ยวรีวิวสายการบินฟินแอร์ให้ดูอีกตอนแยกต่างหาก รีวิวละเอียดยิบ จากกรุงเทพ ลงฟินแลนด์ จากฟินแลนด์ ไปไอซ์แลนด์ มีคำแนะนำเรื่องเมื่อเกิดอุบัติเหตุกับกระเป๋าจากเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ต้องอ่านถ้าไม่อยากเจอแบบเดียวกัน
และแล้วก็มาถึงยังจุดหมายปลายทาง ที่เมืองเรคยาวิค ประเทศไอซ์แลนด์
ไอซ์แลนด์ อยู่ในทวีปยุโรป ตั้งอยู่บนเกาะในมหาสมุทรแอตแลนติกเหนือ ระหว่างกรีนแลนด์ นอร์เวย์ และสหราชอาณาจักร มีเมืองหลวง คือ เรคยาวิค ที่เที่ยวไอซ์แลนด์มีเยอะมาก ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและที่มนุษย์สร้างล้วนแล้วแต่มีเสน่ห์ การเดินทางท่องเที่ยวในไอซ์แลนด์ 6 วัน 5 คืน Little Angel ไปมาเกือบทั่วเกาะ ทำให้ Little Angel ได้รู้อีกอย่างว่า ไอซ์แลนด์ไม่ได้มีดีแค่แสงเหนือ แสงเหนือก็ว่าสวยแล้ว แต่ที่เที่ยวไอซ์แลนด์แต่ละที่ก็สวยงามน่าหลงใหลไม่น้อยกว่าแสงเหนือเช่นกัน ดังนั้น Little Angel เลยเลือกที่เที่ยวไอซ์แลนด์แบบเด็ดโดนใจ ต้องห้ามพลาดมาทั้งหมด 19 ที่ ไปดูกันทีละจุดเลย
จุดแรก ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ ภูเขาเคิร์กจูเฟล (Kirkjufell)
ภูเขาเคิร์กจูเฟล (Kirkjufell) ภูเขาที่ถูกถ่ายรูปมากทีสุดในไอซ์แลนด์
ภูเขาเคิร์กจูเฟล (Kirkjufell) อยู่ที่เมืองกรุนดาร์ฟจอร์ดูร์ (Grundarfjordur) ความโดดเด่นของภูเขาลูกนี้คือ มีรูปร่างคล้ายหมวกแม่มด Little Angel มองแล้วก็เหมือนจริงๆ ภูเขาเคิร์กจูเฟล (Kirkjufell) มีความสูงประมาณ 463 เมตร จุดนี้ถูกจัดว่า เป็น “ภูเขาที่ถูกถ่ายรูปมากทีสุดในไอซ์แลนด์” ดังนั้นต้องห้ามพลาดเมื่อคุณมาเที่ยวไอซ์แลนด์
ภูเขาเคิร์กจูเฟล (Kirkjufell) : รีวิวที่เที่ยวไอซ์แลนด์
จุดที่ 2 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ น้ำตกเฮินฟอซซ่า (Hraunfossar Waterfall)
น้ำตกเฮินฟอซซ่า (Hraunfossar Waterfall) คำว่า Hruan ในภาษาไอซ์แลนดิก แปลว่า ลาวา น้ำตกเฮินฟอซซา (Hraunfossar Waterfall) แห่งนี้ เป็นน้ำตกที่ไหลจากลำธารที่พาดอยู่บนทุ่งลาวาที่ประทุขึ้นจากภูเขาไฟใต้พิภพที่อยู่ใต้ธารน้ำแข็งชื่อดังของไอซ์แลนด์ นั่นคือ ธารน้ำแข็งลังโจกุลกลาเซียร์ (Lungjokull Glacier) มีความยาวกว่า 900 เมตร ว่ากันว่า จะสวยสุดๆ ในช่วงหน้าหนาว เพราะน้ำตกจะกลายเป็นน้ำแข็ง
จุดที่ 3 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ น้าพุร้อนเดลดาทุงกูเวล (Deildartunguhver Hot Spring) ใหญ่ที่สุด ไหลเร็วที่สุด
อากาศหนาวๆ ในไอซ์แลนด์ ต้องไปสัมผัสน้ำพุร้อนเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายกันหน่อย ไปดูน้ำพุร้อนฟังแล้วเหมือนจะธรรมดา แต่ที น้าพุร้อนเดลดาทุงกูเวล (Deildartunguhver Hot Spring) ไม่ธรรมดา เพราะที่นี่เป็นบ่อน้าพุร้อนใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์ และมีแรงน้ำที่ไหลเร็วที่สุดในยุโรป ไหลเร็วถึง 180 ลิตร/วินาที และมีอุณหภูมิน้ำสูงสุด 97 องศาเซลเซียส แบบนี้จะไม่ให้แวะไปชมได้ยังไง
จุดที่ 4 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ Kerid Volcanic Crater
Kerid Volcanic Crater ปากปล่องภูเขาไฟ แต่พอไปยืนตรงใกล้ปากปล่อง จะมองเห็นเหมือนแอ่งน้ำขนาดใหญ่มากกว่า ที่นี่มีอายุมากกว่า 3,000 ปี ก่อนขึ้นไปจะมีจุดจำหน่ายตั๋ว ทางเดินขึ้นไม่ยาก เดินไม่ไกลจากจุดจอดรถ ผู้สูงอายุก็เดินไปชมได้
จุดที่ 5 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ ขับรถสโนว์โมบิลตะลุยไปในทุ่งน้าแข็งลังโจกุล (Lungjokull Glacier)
การขับรถสโนว์โมบิลตะลุยไปในทุ่งน้าแข็งลังโจกุล (Lungjokull Glacier) ถือเป็นหนึ่งกิจกรรมที่มาเยือนไอซ์แลนด์แล้วต้องห้ามพลาด คุณจะได้สัมผัสกับความเร็ว ความสนุกสนาน ความท้าทาย และความสวยงามของหิมะ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนรอบตัว 360 องศา ล้วนถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาวสะอาด สวยจนลืมหนาว และการขับรถสโนว์โมบิลก็ไม่ยาก จะมีเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำก่อนออกเดินทาง ข้อห้ามที่เจ้าหน้าที่ย้ำมาก คือ ไม่แนะนำให้ Selfie ในขณะขับหรือซ้อนท้ายสโนว์โมบิล ต้องระวังเพราะอาจจะเกิดอันตรายได้ ย้ำไปทั้งทีต้องห้ามพลาดกิจกรรมขับรถสโนว์โมบิล ไม่งั้นอาจจะหมือนไปไม่ถึงไอซ์แลนด์
จุดที่ 6 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ น้ำพุร้อนกีเซอร์ (Geysir) แห่งหุบเขาฮัวกาดาลู Valley Alley Of Haukadalur
น้ำพุร้อนกีเซอร์ (Geysir) แห่งหุบเขาฮัวกาดาลู Valley Alley Of Haukadalur เป็นน้ำพุร้อนที่เกิดจากพลังงานที่อยู่ใต้หินเปลือกโลก ขับเคลื่อนออกมาเป็นน้าพุร้อน ทุกๆ 7 – 10 นาที จะเกิดน้ำพุร้อนพวยพุ่งมาจากใต้ดิน มีความสูงมากกว่า 180 ฟุต ก่อนจะเกิดการพวยพุ่ง จะมีการกระเพิ่มของน้ำให้เห็นชัดเจน นักท่องเที่ยวยืนดูได้อย่างใกล้ชิด พร้อมกับลุ้นการเกิดน้ำพุร้อนในแต่ละครั้งด้วยความตื่นเต้น
ทริปนี้ได้รับความรู้จากทีมผู้เชี่ยวชาญอย่าง Viego Group ทำให้ได้รู้ถึงที่มาของคำว่า น้ำพุร้อนหรือเกย์ซีร์ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า กีเซอร์ ที่ใช้กันทั่วโลก
ที่น้ำพุร้อนกีเซอร์ (Geysir) ไม่ได้มีแค่ความมหัศจรรย์ของน้ำพุร้อนให้ดู แต่รัฐบาลได้ใช้ประโยชน์จากแหล่งความร้อนทางธรรมชาติจากน้ำพุแห่งนี้มาเป็นพลังงานไฟฟ้าส่งใช้ทั่วประเทศอีกด้วย
จุดที่ 7 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss Waterfall) หรือ ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์
น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss Waterfall) หรือ น้ำตกทองคำ มาจากคำว่า Gull ที่แปลว่า ทองคำ และ Foss ที่แปลว่าน้ำตก ทำให้ น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss Waterfall) แปลว่า น้ำตกทองคำ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวในเส้นทางที่เรียกว่า “วงแหวนทองคำ” หรือ Golden Circle น้ำตกแห่งนี้ทั้งใหญ่และอลังการ ประหนึ่งกำลังยืนอยู่ที่น้ำตกไนแองการ่า ทำให้ถูกขนานนามว่า น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss Waterfall) ก็คือ ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ น้ำตกแห่งนี้เกิดจากการละลายของธารน้าแข็งและลดระดับลงในโตรกเขาเบื้องล่างในระดับความสูงกว่า 30 เมตร ทั้งยิ่งใหญ่สวยงามและอลังการหาดูยากจริงๆ
เห็นความยิ่งใหญ่อลังการแบบนี้ แต่สามารถเดินจากที่จอดรถเพียง 100-200 เมตร ทั้งสวยงามอลังการและสะดวกสบาย เป็นอีกจุดที่ต้องห้ามพลาด
จุดที่ 8 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ น้ำตกเซลยาลันส์ฟอสส์ (Seljalandsfoss Waterfalls)
น้ำตกเซลยาลันส์ฟอสส์ (Seljalandsfoss Waterfalls) อีกหนึ่งน้ำตกที่ไม่ควรพลาด เพราะความสวยงามของ น้าตกเซลยาลันส์ฟอสส์ (Seljalandsfoss Waterfalls)ไม่ได้มีให้ชมเพียงเบื้องหน้าที่เห็น แต่จดุไฮไลท์อยู่ที่ คุณจะสามารถเดินลัดเลาะน้ำตกและไปชมวิวจากด้านหลัง ผ่านม่านน้ำตกเซลยาลันส์ฟอสส์ (Seljalandsfoss Waterfalls) อันสวยงามได้อีกด้วย
จุดที่ 9 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogarfoss Waterfalls)
น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogarfoss Waterfalls) น้ำตกแห่งนี้ต้องห้ามพลาด ยิ่งถ้าคุณเป็นแฟนหนังหรือเคยดูหนังเรื่อง Thor น่าจะคุณตากับที่นี่ เพราะที่นำตกนี้เป็นทำเลหลักในการถ่ายทำหนังเรื่อง Thor: The Dark World , The Secret Life of Walter Mitty และมีความสูงถึง 60 เมตร
จุดที่ 10 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ หาดทรายสีดำ (Black Beach)
ก่อนเดินทางไปเที่ยวไอซ์แลนด์ สถานที่แห่งนี้ เป็นสถานที่ที่ Little Angel อยากไปที่สุด คือ หาดทรายสีดำ (Black Beach) อยากไปเห็นหาดทรายสีดำกับตา พอไปถึงสมกับที่คาดหวังไว้ หาดทรายสีดำทอดยาวสุดตา กำลังถูกน้ำทะเลซัดสาดด้วยละอองคลื่นสีขาว ประกอบกับภูเขาแท่งหินที่พุ่งสูงนำสายตาไปสู่ท้องฟ้าสีสดใส สวยงามราวภาพวาด ซึ่งทรายสีดำที่นี่ เกิดจากการสึกกร่อนของหินลาวาและแนวหินบะซอลต์ ทำให้ที่นี่เป็นหนึ่งในชายหาดที่สวยงามแปลกตาอีกที่หนึ่งที่หาชมได้ยาก ดังนั้นต้องห้ามพลาด Little ไปมาสองครั้งในทริปนี้ ไปทั้งช่วงกลางวันและช่วงเย็น และโชคดีได้เจอกับคู่รักที่กำลังมาถ่าย Pre-Wedding ที่ หาดทรายสีดำ (Black Beach) ที่นี่ ยิ่งทำให้ที่ หาดทรายสีดำ (Black Beach) ดูโรแมนติกมากยิ่งขึ้นไปอีก
จุดที่ 11 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ Faxifoss หรือ FaxafossFaxifoss หรือ Faxafoss เขียนได้ทั้ง 2 แบบ น้ำตก Faxi (หรือ Vatnsleysufoss) หนึ่งในน้ำตกสวยที่อยู่ในเส้นทาง วงกลมทองคำ (Golden Circle) อยู่ระหว่าง Geysir และ Gullfoss มีสะพานไม้ทอดเป็นแนวยาวให้เดินชมน้ำตกได้ง่ายๆ รถจอดได้ใกล้น้ำตกมาก น้ำตกแห่งนี้จะมีปลาแซลมอนอาศัยอยู่และเป็นสถานที่ตกปลายอดนิยมของนักท่องเที่ยวและชาวไอซ์แลนด์
จุดที่ 12 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ โจกุลซาลอน (Jokulsarlon) ทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์
โจกุลซาลอน (Jokulsarlon หรือ Jökulsárlón) ไอซ์แลนด์เป็นอีกหนึ่งประเทศที่นักสร้างภาพยนต์นิยมเลือกเป็นทำเลในการถ่ายทำ ก่อนหน้าแฟนๆหนังเรื่อง Thor ได้ชม น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogarfoss Waterfalls) ที่เป็นทำเลหลักในการถ่ายทำหนังเรื่อง Thor กันแล้ว มาถึงอีกจุดที่ต้องห้ามพลาด และเอาใจแฟนๆ Game of Thrones และ James Bond กันบ้าง เพราะความสวยที่ โจกุลซาลอน (Jokulsarlon หรือ Jökulsárlón) ทำให้เป็นทำเลที่ใช้ถ่ายทำหนังเรื่อง Game of Thrones และ James Bond ภาค Die Another Day พูดแบบนี้น่าจะร้องอ๋อขึ้นมาทันที สวยกว่าในหนัง ต้องไปดูให้เห็นกับตา
โจกุลซาลอน (Jokulsarlon หรือ Jökulsárlón) ปัจจุบันมีพื้นที่กว้างถึง 18 ตารางกิโลเมตร ลึกถึง 200 เมตร เป็นทะเลสาบธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไอซ์แลนด์ ก้อนน้ำแข็งที่ลอยน้ำ โดนแสงแดดตกกระทบ เป็นประกายระยิบระยับสวยงามเกินบรรยาย ในรูปสวยไม่ได้ครึ่งเดียวที่ตาได้เห็น ต้องห้ามพลาดจริงๆ ณ จุดนี้
จุดที่ 13 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ Fjadrargljufur หรือ FJAÐRÁRGLJÚFUR Canyon
Fjadrargljufur หรือ FJAÐRÁRGLJÚFUR Canyon มาถึงอีกจุดเอาใจแฟนๆ Justin Bieber กันบ้าง เพราะจุดนี้เป็นสถานที่ถ่าย ทำมิวสิควีดีโอ เพลง I’ll Show You ของ Justin Bieber นั่นเอง Fjadrargljufur หรือ FJAÐRÁRGLJÚFUR Canyon ลึก 100 ม. (330 ฟุต) ยาวประมาณ 2 กิโลเมตร อยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ ใกล้กับเมือง Kirkjubaejarklaustur
จุดที่ 14 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ Old bridge of iceland Skeiðará Bridge Monument
Old bridge of iceland Skeiðará Bridge Monument อนุสาวรีย์ซากสะพานเก่าแก่ที่ถูกทำลายจากลาวาภูเขาไฟ ทำให้พื้นเป็นก้อนหินทรายสีดำเต็มลาน และยังโดนธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ที่ท่วมทำลายให้สะพานพังลง
จุดที่ 15 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park) อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไอซ์แลนด์
อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park) ตั้งอยู่ระหว่างรอยแยกของหุบเขากับทะเลสาบ Pingvallavatn ที่อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park) เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไอซ์แลนด์ เป็นรอยต่อระหว่างทวีปยูเรเซียและทวีปอเมริกาเหนือ และยังเป็นจุดที่เป็นรอยเลื่อนของเปลือกโลก ยาวเป็นทางหลายหมื่นกิโลเมตร ร่องที่แยกแผ่นดินนี้เกิดจากแผ่นดินไหวเมื่อปี ค.ศ. 1784 ลึกถึง 14 เมตร ทุกๆ ปีรอยแยกนี้จะขยายออกปีละ 1 เซนติเมตร และอีกไม่นานจะขาดจากกัน
เมื่อปี ค.ศ.2004 องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนให้อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park)เป็นมรดกโลก
จุดที่ 16 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) โบสถ์ที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์
โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrímskirkja) มาถึงเมืองหลวงอย่างกรุงเรคยาวิค ไอซ์แลนด์ ต้องมาดูโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดในไอซ์แลนด์และเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงเป็นอันดับ 6 ของไอซ์แลนด์ มีความสูง 73 เมตร โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์กสำคัญของกรุงเรคยาวิค โบสถ์แห่งนี้ตั้งชื่อตามชื่อของ ฮัลล์กรีมูร์ เพทูร์สซอน นักกวีและนักบวชชาวไอซ์แลนด์ ฮัลล์กรีมสคิร์คยาตามศัพท์แปลว่า “โบสถ์ของฮัลล์กรีมูร์”
จุดที่ 17 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ เพอร์แลน (Perlan)
เพอร์แลน (Perlan) อีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมมากๆ ของกรุงเรคยาวิค คือ เพอร์แลน (Perlan) อาคารแลนด์มาร์กของประเทศไอซ์แลนด์ สูง 25.7 เมตร รูปทรงแปลกตาคล้ายลูกโลกครึ่งวงกำลังตั้งอยู่บนถังน้ำขาดใหญ่ 4 ถัง
เพอร์แลน ในภาษาไอซ์แลนด์ มีความหมายตรงกับภาษาอังกฤษว่า The Pearl ที่แปลว่าอ่าว โดยการสร้างสถานที่แห่งนี้จะให้หมายถึงว่าเป็น สัญลักษณ์ของอ่าวเรคยาวิค
ถ้าอยากชมวิวกรุงเรคยาวิคแบบ 360 องศา ก็ต้องมาที่นี่ เพอร์แลน (Perlan)
จุดที่ 18 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ Sólfar (The sun voyager Reykjavik)
Sólfar (The sun voyager Reykjavik) หรือเรือแห่งความฝัน ประติมากรรมรูปโครงร่างเรือ ตั้งตระหง่านอยู่ที่ชายทะเลของกรุงเรคยาวิค
จุดที่ 19 ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ ต้องห้ามพลาด คือ บลูลากูน Blue Lagoon Hot Springs
บลูลากูน Blue Lagoon Hot Springs อากาศหนาวๆ แบบนี้ จะมีอะไรดีไปกว่า การได้แช่น้ำพุร้อน ถ้ามาไอซ์แลนด์ หนึ่งกิจกรรมที่ต้องห้ามพลาด คือ การลงแช่น้ำร้อนที่ บลูลากูน Blue Lagoon Hot Springs และพอกโคลนขาวโคลนดำทั่วหน้า เค้าบอกต่อๆ กันว่า ถ้าได้พอกโคลนที่ บลูลากูน Blue Lagoon Hot Springs เพียง 10 นาที หน้าของคุณจะดูอ่อนเยาว์ลงไปอีก 10 ปี ดีงามแบบนี้ต้องลอง ถ้าจะผ่อนคลายกันแบบสุดๆ ต้องจิบเครื่องดื่มระหว่างแช่น้ำพุร้อน สบายอารมณ์จริงๆ
เที่ยวจนทั่วเกาะไอซ์แลนด์ ทำกิจกรรมแบบสนุกสุดเหวี่ยง ชมความงามของภูเขา น้ำตกและแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่างมหัศจรรย์ และรวบรวมมาฝากในรีวิวนี้ครบ 19 จุดต้องห้ามพลาด แต่มีอีกสิ่งเมื่อไปไอซ์แลนด์แล้ว ควรแวะทักทายถ่ายภาพมาเป็นที่ระลึก คือ ม้า อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องทำเมื่อไปไอซ์แลนด์ ถ้ามาแล้วไม่เจอม้า ไม่ได้ถ่ายรูปคู่ม้าตั่วล่ำๆ ขนฟูพองสวยงามกำลังดี ก็คงเหมือนมาไม่ถึงไอซ์แลนด์เช่นกัน ที่ไอซ์แลนด์ มีเลี้ยงม้ากันมาก และแล้ว Little Angel ก็ไม่พลาด แวะไปถ่ายรูปคู่กับม้าแถวๆ ฟาร์มม้าก่อนเข้างกรุงเรคยาวิค
บทสรุปทริปในฝัน ถึง Little Angel จะป่วย แต่ก็ยังไปเที่ยวไอซ์แลนด์ได้ทุกที่ ประทับใจ มาทริปเดียวเที่ยวครบเก็บทุกจุด สนุกทุกกิจกรรมจริงๆ แต่ก็ยังอยากไปอีก เที่ยวไอซ์แลนด์ในฤดูอื่นๆ คงสวยไม่น้อยไปกว่ากัน รอดูรีวิวแต่ละสถานที่ในตอนต่อๆไป ตอนนี้ต้องกลับไทย เตรียมตัวกลับมาผ่าตัดรักษาอาการหลอดอาหารตีบกันต่อไป แล้วเจอกันใหม่นะไอซ์แลนด์ ดินแดนแห่งความมหัศจรรย์ของธรรมชาติ
ดูรีวิวเที่ยวไอซ์แลนด์แบบจัดเต็ม คลิกตามหัวข้อเลยค่ะ
- ที่เที่ยวไอซ์แลนด์ 19 จุดเชคอินต้องห้ามพลาด ไอซ์แลนด์ไม่ได้มีดีแค่แสงเหนือ อัพเดตล่าสุด (รีวิวที่เที่ยวไอซ์แลนด์)
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.1 : บินฟินแอร์ แวะฟินแลนด์ ไปไอซ์แลนด์ เจอกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันตั้งแต่วันแรก (รีวิวสายการบินฟินแอร์ไปไอซ์แลนด์)
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.2/1 : Bjargarsteinn วิวหลักล้าน กินอาหารพร้อมวิวมหาสมุทรและ Mt. Kirkjufell (Best Seafood Restaurant Guru 2019 in Iceland)
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.2/2 : ภูเขาคีร์กจูเฟล (Mt.Kirkjufell) หรือ “ภูเขาหมวกแม่มด” ภูเขาที่ถูกถ่ายรูปมากที่สุดในไอซ์แลนด์ (Mt.Kirkjufell, Iceland)
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.2/3 : น้ำตกเฮินฟอซซ่า หรือ น้ำตกลาวา (Harunfossar Barnafoss, Iceland)
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.2/4 : น้ำพุร้อนเดลดาทุงกูเวล (Deildartunguhver Hot Springs) ไหลเร็วที่สุดในยุโรป
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.2/5 : Hotel Selfoss, Iceland : โรงแรมดังในเซลฟอสส์ ไอซ์แลนด์
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.3 : เส้นทางสุดฮิต Golden Circle, Iceland วงกลมทองคำ
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.3/1 : ชมทะเลสาบกลางปล่องภูเขาไฟ เคริด (The Crater Kerid) : Gloden Circle Iceland
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.3/2 : Faxifoss หรือ FaxafossFaxifoss หรือ Faxafos : Golden Circle Iceland
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.3/3 : ขับ Snowmobile Iceland ตะลุยหิมะในทุ่งน้ำแข็งลังโจกุล (Lungjokull Glacier) สุดยอดกิจกรรมที่ไอซ์แลนด์
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.3/4 : น้ำพุร้อนเกย์ซีร์ (Geysir Geothermal Area) พุ่ง 180 ฟุต ทุก 7 นาที : Gloden Circle Iceland
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.3/6 : น้ำตกกุลล์ฟอสส์ (Gullfoss Waterfall) ไนแองการ่าแห่งไอซ์แลนด์ : Golden Circle Iceland
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.3/7 : ไอซ์แลนด์กำลังแยกออกจากกัน ที่อุทยานแห่งชาติซิงเควลลิร์ (Thingvellir National Park) อุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไอซ์แลนด์ : Golden Circle Iceland
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.3/8 : รีวิวโรงแรม Stracta Hotel โรงแรมดังบนเส้นทาง Golden Circle Iceland
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.4/1 : ชมม่านน้ำตก 360 องศา ที่ น้ำตกเซลยาลันฟอสส์ (Seljalandsfoss)
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.4/2 : น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogarfoss) น้ำตกที่สูงที่สุดในไอซ์แลนด์
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.4/3 : Skogar Street Food ร้านอาหารใกล้น้ำตกสโกกาฟอสส์ (Skogarfoss) ร้านนี้ใกล้มากๆ
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.4/4 : หาดทรายดำ เรย์นิสฟยารา (Reynisfjara Black Sand Beach Iceland) สวยติด 1 ใน 10 ของโลก
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.4/5 : Fjadrargljufur Canyon แกรนด์แคนยอนไอซ์แลนด์ สถานที่ถ่ายทำ MV ชื่อ I’ll Show You ของ Justin Bieber
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.4/6 : รีวิว Hotel Laki กินหรู นอนดี
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.5/1 : โจกุลซาลอน (Jokulsarlon Glacier Lagoon) ลงเรือชม ธารน้ำแข็งที่ใหญ่ที่สุดของไอซ์แลนด์ ที่เดียวเที่ยวคุ้มค่าทัวร์
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.5/2 : Restaurant Museum กินแล้วชมพิพิธภัณฑ์ฟรี
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.5/3 : ดูหุบเขาธารหิมะยักษ์และซากเครื่องบินเก่า ที่ Havannadalshnukur
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.5/4 : สวยกว่าทะเลหมอก ก็ทะเลมอสนี่แหละ : ทุ่งมอสลาวา (The Mossy Lava Fields)
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.5/5 : รีวิวโรงแรม IcelandAir Hotel Vik ตรงข้ามมี Icewear Store : โรงแรมดังในเมือง Vik,Iceland
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.6/1 : ม้าไอซ์แลนด์ยิ้มได้? สิ่งมีชีวิตที่ต้องมาดู
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.6/2 : โบสถ์ฮัลล์กรีมสคิร์คยา (Hallgrimskirkja) โบสถ์คริสต์ที่สูงสุดในไอซ์แลนด์
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.6/3 : Solfar หรือ The sun voyager Reykjavik ประติมากรรมเรือแห่งความฝัน
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.6/4 : VOX Brasserie & Bar ร้านอาหารดังในเรยาวิค
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.6/5 : มองเรยาวิค (Reykjavik) แบบ 360 องศาที่ Perland
- เที่ยวไอซ์แลนด์ EP.6/6 : อาบน้ำแร่ แช่น้ำอุ่น Blue Lagoon Iceland