“Beijing CIA T3” อาคารผู้โดยสารใหม่และใหญ่ที่สุดในโลก ต้อนรับ “Beijing Dream 2008”
“Beijing CIA T3” อาคารผู้โดยสารใหม่และใหญ่ที่สุดในโลก ต้อนรับ “Beijing Dream 2008”
“One World, One Dream” คำขวัญการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008 การจัดมหกรรมกีฬาโลก คงมีทั้งกองทัพนักกีฬาและนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่เดินทางไปยังประเทศจีนในช่วงการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008 หรือ “Beijing Dream 2008” นี้
จากที่ประเทศจีนได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2008 จีนจึงได้มีการเตรียมตัวปรับปรุงสนามบิน Beijing Capital International Airport ใหม่ เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวในช่วงที่มีการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
สนามบิน Beijing Capital International Airport ได้ก่อสร้างขึ้นเมื่อปี 1959 รองรับผู้เดินทางได้ 35 ล้านคนต่อปี แต่ด้วยความต้องการที่จะขยายสนามบินเพื่อให้รองรับจำนวนผู้โดยสารให้มากขึ้นและผู้โดยสารที่จะเดินทางในช่วงการจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก 2008 จีนจึงได้ทำการก่อสร้างอาคารผู้โดยสารที่ 3(อาคาร T3 หรือTerminal 3) เป็นรูปมังกร ไว้คอยต้อนรับนักท่องเที่ยวและนักกีฬาที่จะเดินทางมาในช่วงการจัดโอลิมปิก ด้วยการลงทุน 27 พันล้านหยวน หรือ 3.82 พันล้านเหรียญสหรัฐ (US$) บนพื้นที่ 10ล้านตารางฟุต โดยคนงานมากกว่า 50,000 คน อาคาร T3 (Terminal 3) จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 76 ล้านคนต่อปี จะดำเนินการให้เสร็จภายในปี 2007 ใช้ระยะเวลาประมาณ 4 ปี และดำเนินการก่อสร้าง cargo ที่รองรับสินค้าจำนวน 1.8 ล้านตันต่อปี ให้แล้วเสร็จภายในปี 2015 รวมระยะเวลาก่อสร้างอาคารผู้โดยสารใหม่ T3 คาดว่าจะใช้ระยะเวลาทั้งหมด 12 ปี เพื่อให้เป็นสนามบินที่ใหญ่ที่สุดและทันสมัยที่สุด
อาคาร T3 ออกแบบโดยสถาปนิกชาวอังกฤษ ชื่อ “Norman Foster” ผู้ออกแบบสนามบินนานาชาติฮ่องกง หรือ Chek Lap Kok International Airport นั่นเอง และร่วมกันกับทีมวิศวกรจากบริษัท firm Arup Group Ltd., ตัวอาคารออกแบบเป็นรูปตัว Y ซึ่งสอดคล้องกับอักษรจีนคำว่า “ren” ที่เขียนคล้ายอักษรตัว Y กลับหัว และมีความหมายว่า คน ซึ่งหากการก่อสร้างแล้วเสร็จสนามบิน Beijing Capital International Airport นี้ จะมีพื้นที่ทั้งหมดใหญ่กว่า สนามบิน Heathrow International Airport ในลอนดอน ถึง 17% การทำออกแบบประตูทางเข้ารูปโค้งเหมือนดวงตาที่ครอบคลุมไข่มุก
สนามบินนี้ได้มีการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาประกอบกัน ทำให้เกิดความสะดวกสบายสูงสุดกับผู้เดินทาง ได้แก้ การเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าใต้ดิน (Subway link) เพื่ออำนวยความสะดวกสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางเข้าเมือง โดยจะมีบริการทุกๆ 15 นาที และสำหรับผู้โดยสารจาก T3 ก็จะมีบริการเชื่อมต่อจากอาคาร T3 ได้อีกด้วย ภายในอาคาร T3 มีอุปกรณ์เชื่อมต่อทางด้านอินเตอร์เน็ตไว้คอยบริการอีกด้วย และยังมีเทคโนโลยีระบบไฟฟ้า,ระบบน้ำและระบบลำเลียงกระเป๋าและเทคโนโลยีอื่นๆที่ทันสมัยอีกมากมาย
ด้วยความฝันจากการที่ต้องการเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬาโอลิมปิก มหกรรมที่จะรวมวงแหวนทั้งห้าเป็นหนึ่งเดียว ในปี 2008 นี้ และความตั้งใจที่จะอำนวยความสะดวกกับผู้โดยสารที่เดินทางไปประเทศจีน ก่อให้เกิดการสร้างอาคารผู้โดยสารที่มีเทคโนโลยีที่ทันสมัยและใหญ่ที่สุดในโลกขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ กลายเป็น “สุดยอดสนามบิน” ในทันที เพื่อไว้คอยต้อนรับผู้โดยสารจากทุกประเทศทั่วโลก