Let’s go to aomori. เที่ยวอาโอโมริ ตอนที่ 1 : ความมหัศจรรย์ของหิมะและที่สุดของธรรมชาติสวย (รีวิวที่เที่ยวอาโอโมริ)
เที่ยวอาโอโมริ เมืองหิมะขาว และที่สุดของธรรมชาติสวย วลีทีดูเหมือนธรรมดา แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าหากได้อ่านครบทุกตอน ต้องบอกเลยว่า ชาตินี้ต้องไปเที่ยวอาโอโมริให้ได้
อาโอโมริ (Aomori) ตั้งอยู่ทางทิศเหนือสุดของโทโฮคุ ของเกาะฮอนชู ถ้ามองจากแผนที่ จังหวัดนี้มีลักษณะคล้ายตัวซีหงาย (เปรียบเทียบเองล้วนๆ) ชื่ออาโอโมริ (Aomori) อาจฟังดูไม่คุ้นหู และอาจจะคิดว่าเดินทางไปเที่ยวยาก แต่ตอนนี้ที่อาโอโมริ (Aomori) มีรถไฟชินคันเซ็นไปถึงแล้ว เดินทางไม่ยาก ซึ่งในทริปนี้ เน้นการขับรถเที่ยวเป็นหลัก เพราะแต่ละจุดที่เดินทางไปเที่ยว ถ้าขับรถไปจะสะดวกมาก ช่วงที่ไปเป็นช่วงเดือนปลายกุมภาพันธ์ เป็นช่วงที่พีคสุดๆ ของการท่องเที่ยวอาโอโมริ (Aomori) ทั้งเมืองจะถูกปกคลุมไปด้วยหิมะขาว Little Angel เห็นหิมะมาก็หลายที่ แต่ทริปนี้หลายจุดท่องเที่ยวของ อาโอโมริ (Aomori) ทำให้ต้องตะลึงกับความงามของธรรมชาติและความมหัศจรรย์ของหิมะ จนทำให้ต้องเอ่ยปากว่า ครั้งหนึ่งในชีวิต ใครยังไม่เคยมาต้องมาเที่ยวที่ อาโอโมริ (Aomori) ให้ได้ก่อนตายนะ
ความสวยงามอลังการและความน่าสนใจของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของ อาโอโมริ (Aomori) ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจและสวยงามตามธรรมชาติ บางสถานที่ถึงกับต้องสู้กับความหนาวและเอามือมากดชัตเตอร์รัวๆ เพื่อเก็บภาพความงามของสถานที่ต่างๆ มาฝากเพื่อนๆ กัน ในตอนแรกจะเอามายั่วให้เห็นทีละจุดก่อน
เริ่มจาก ศาลเจ้าอันเลื่องชื่อของ อาโอโมริ (Aomori) ที่เคารพศรัทธาของชาวเมืองฮะชิโนะเฮะ (Hachinohe) ศาลเจ้าที่มีอายุเก่าแก่กว่า 800 ปี ศาลเจ้าไม่ใหญ่มาก แต่มีคนเข้ามาไหว้ที่นี่ตลอด นั่นแสดงถึงพลังแห่งศรัทธาที่มีต่อ Kushihiki Hachimangu Shrine ศาลเจ้าชื่อดังของเมืองฮะชิโนะเฮะ จังหวัดอาโอโมริ
มาเที่ยวอาโอโมริ (Aomori) ครั้งนี้ ได้เที่ยวครบรสมากๆ ทั้งที่เที่ยว ที่กิน ที่ช้อป มีให้เที่ยวได้ตลอดแบบไม่เบื่อ สถานที่นี้ก็เช่นกัน ซอยเล็กๆ ที่มีทั้งนักท่องเที่ยวและคนทำงาน ต่างมานั่งสังสรรค์ยามค่ำ เป็นที่นัดหมายให้มาผ่อนคลายหลังเลิกงาน จนทำให้ทุกร้านแน่นไปหมด ทำให้ Yokocho กลายแหล่ง Hangout สุดชิค และเป็นสีสันยามค่ำคืนของชาวเมืองนี้
สถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาดหากเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น นั่นคือ การได้ไปสัมผัสวิถีของตลาดปลายามเช้า ตลาดปลาของแต่ละเมืองต่างมีเอกลักษณ์หรือความเป็นธรรมชาติของเหล่าบรรดาพ่อค้าแม่ค้าที่แตกต่างกัน และตลาดเช้า Asameshi-dokoro gysai ที่นี่ก็เช่นกัน ตลาดเล็กๆ แต่น่าเดิน ดูของสดกันเพลินมากๆ
ทริปนี้จะเน้นเที่ยวธรรมชาติ กินอาหารอร่อย และช้อปของฝาก ดังนั้น อีกสถานที่ที่ไม่พลาดเอามาฝากทุกคนคือ Hachoku Center ที่นี่คือตลาดของนักท่องเที่ยวที่มีให้กินและช้อปได้ในที่เดียวกัน เดินทางมาได้ทั้งรถส่วนตัวและรถประจำทาง
หากใครบอกกับตัวเองว่า ไม่ชอบเที่ยวพิพิธภัณฑ์ ขอท้าให้มาลองเที่ยวที่นี่ Misawas Aviation Science Museum เพราะที่นี่จะทำให้คุณเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลก ทั้งสนุกและได้ความรู้มาก ไม่ควรพลาด
ถัดมาจะพามาดูของแปลก ม้ารูปร่างประหลาด สายพันธุ์ Kandachime หาดูที่ไหนยาก แต่ที่นี่กลับมีให้ดูเป็นจำนวนมาก ประหลาดอย่างไร น่าสนใจอย่างไร ไว้ติดตามในรีวิวตอนต่อๆ ไปได้
รูปปั้นปลา Maguro ตัวใหญ่กว่าคนหลายเท่า ตั้งเด่นเป็นอีกหนึ่งจุด Landmark สำคัญของเมือง Oma เมืองที่อยู่จุดสูงสุดของ Honshu (Top north of honshu) เมืองที่กล่าวกันว่ามีปลา Maguro ที่อร่อยที่สุด แพงที่สุดในญี่ปุ่น สาวกปลาดิบ สักครั้งในชีวิตควรมาที่นี่ Oma
ปักหมุดไว้รอคนรักปลา Maguro สาวกปลาดิบ หรือนักท่องเที่ยวที่มา Oma ต้องไม่พลาดร้านนี้ ร้านดังของ Oma หรือจะว่าไป น่าจะดังไปทั่วญี่ปุ่น เพราะที่ร้านนี้ เป็นร้านที่ตกปลา Maguro ตัวที่แพงที่สุดในญี่ปุ่น ราคาสูงถึง 45 ล่านบาท ย้ำ 45 ล่านบาทไทย
มาถึงคิวของคนรักหอย มา อาโอโมริ สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือ การได้ลิ้มลองหอยเชลล์ตัวใหญ่ๆ สดๆ สดถึงขั้น ตกเอง กินเองกันไปเลย เพราะที่ร้านนี้มีเกมสนุกๆ ให้คุณได้ออกแรงเล็ก ตกหอยมากินเองได้ ปักหมุดไว้ตามมาอีกร้าน Aomori hotate goya ร้านหาง่าย ราคาไม่แพง อีกร้านที่ต้องห้ามพลาด
ที่สุดของทริป Let’s go to aomori ทริปนี้ ต้องยกให้ที่นี่เลย Mt.Hakkoda ขึ้นกระเช้าไปตามหาสัตว์ประหลาดหิมะ หรือ Snow Monster เหมือนหลุดไปอยู่ในฉากหนัง Hollywood สวยแบบที่ถ่ายรูปออกมาแล้ว ความสวยได้มาแค่ครึ่งเดียวเมื่อเที่ยบกับการมองด้วยตาเปล่า ขอยกให้เป็นที่สุดของทริป เที่ยวอาโอโมริ (Aomori) ทริปนี้ ครั้งหนึ่งก่อนตายต้องมา
ทริปนี้ดื่มด่ำกับธรรมชาติและความสวยของหิมะ กันอย่างเต็มอิ่ม ขับรถเที่ยวตามเส้นทาง Oirase จุดถ่ายภาพสวยๆ ที่เกิดจากธรรมชาติล้วนๆ ไม่ควรพลาด
มาเที่ยวอาโอโมริ ถ้าไม่มา Lak Towada ก็เหมือนมาไม่ถึง ดังนั้น ทริปนี้ก็ไม่พลาด ถึง Lake Towada จะขาวโพลนไปหมด แต่ก็ยังคงแฝงไว้ด้วยเสน่ห์ที่ทำให้ต้องแวะไปถ่ายภาพ
และอีกหนึ่งเทศกาลที่โด่งดังของ อาโอโมริ (Aomori) เทศกาลหิมะยิ่งใหญ่ประจำปี ทั้งความสนุก ความสุข หาได้ที่นี่ หนึ่งปีมีแค่ครั้งเดียว พลาดปีนี้ ปีหน้าปักหมุดรอไว้ได้เลย
งานศิลปะที่กลายเป็นจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั่วโลกให้ต่างมาเยือนที่นี่ ด้วยความยิ่งใหญ่อลังการ จนกลายเป็นเทศกาลแห่ Neputa ประจำปี แอบเอามาอวดเพื่อนๆ ก่อนใคร เพราะ Little Angel ได้ไปทั้งดูและทำส่วนประกอบของ Neputa ที่จะใช้แห่จริงๆ ในงานเทศกาล Neputa ประจำปี 2017 ตื่นเต้นมากๆ
สนุกมาทั้งทริป มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย ทั้งที่เที่ยว ที่กิน ที่ช้อปต่างๆ น่าสนใจมากๆ แต่ถ้ามีเวลา อยากแนะนำให้ไม่พลาดมาลองนั่งรถไฟในตำนาน ที่ยังให้บริการอยู่ทุกวันนี้ ทำไมต้องมานั่งรถไฟขบวนนี้ ใบ้ให้ว่า มีปลาหมึกมาเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทาง คืออะไร ต้องรออ่านในรีวิวต่อๆไปนะ
ทริปนี้เน้นกินจริงๆ เพราะที่เมืองอาโอโมริ (Aomori) มีที่กินที่ประทับใจหลายที่มากๆ และที่นี่ก็ไม่น่าพลาด กินข้าวแบบ เลือกข้าวเลือกกับได้ตามชอบ สนุกก่อนกิน ที่ Furakawa Fish Market ตลาดเช้าของคนอาโอโมริ
ปิดทริปสวยๆ ด้วยการช้อปปิ้งของกิน ของฝาก ของที่ระลึก ที่เดียวมีครบหมด ไม่ต้องเหนื่อยตามหา ตามมาช้อปกันได้ที่ A-Factory
แค่เกริ่นนำทริป Let’s go to aomori. มาข้างต้น ก็ทำให้เห็นได้ว่า มีอะไรน่าเที่ยว น่ากิน น่าช้อปมากมายที่ Aomori. หลงเสน่ห์เมืองอาโอโมริ (Aomori) เข้าอย่างจัง ตั้งเป้าจะต้องไปเยือนอีกแน่ๆ Autum ปีนี้ ปักหมุดไว้ จะไปอีก แต่หากใครอยากตามมาดู ตามมาเที่ยวที่ อาโอโมริ (Aomori) ในช่วงหิมะสวยๆ ก็ช่วงธัวาคมถึงปลายมีนาคม สิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้าวางแผนไปเที่ยวที่ อาโอโมริ (Aomori) กันได้เลย