เที่ยวโอตารุ (Otaru) ดูคลอง ช้อปกล่องดนตรี มีดีที่ชีสเค้ก
เป็นอีกหนึ่งวันที่ Little Angelเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นแบบยิ้มไม่หุบ เพราะวันนี้ Little Angel ได้มีโอกาสเดินทางไปเที่ยวเมืองเล็กๆ แต่แค่วันเดียว ก็หลงรักเข้าอย่างจัง รักจัง…โอตารุ(Otaru)
โอตารุ(Otaru) เป็นเมืองเล็กๆ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของซัปโปโร ครั้งนี้ Little Angel เดินทางมาที่เมืองโอตารุ ด้วยรถไฟ JR จากสถานีซัปโปโร ไปลงที่สถานีโอตารุ ใช้เวลาประมาณ 45 นาที
การเดินเที่ยวในโอตารุง่ายมาก หากเดินออกมาจากสถานีโอตารุ แล้วมุ่งหน้าตรงไปเรื่อยๆ ตามทางลาดของถนน ใช้เวลาเดินชิวๆ ก็น่าจะไม่เกิน 15-20 นาที คุณก็จะได้ไปแชะภาพคู่กับคลองโอตารุ หนึ่งใน Landmark ที่ไม่ไปถ่ายรูปกับคลองโอตารุ ก็จะเหมือนมาไม่ถึงโอตารุ
ระหว่างทางหากเดินมาสัก 5 นาทีก่อนถึงคลองโอตารุ ให้คุณมองทางขวาดีดี จะพบกับ ทางรถไฟสายเก่าเทมิยะ จุดนี้ถ่ายรูปสวยทุกฤดู อย่าลืมแวะเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก จากนั้นมุ่งหน้าเดินต่อไปอีกสักพัก คุณก็จะได้พบกับคลองโอตารุนั่นเอง
คลองโอตารุ (Otaru Canal) หรือ โอตารุอุนงะ (Otaru Unga) มีความยาวประมาณ 1.5 กิโลเมตร อย่าๆ อย่าเพิ่งตกใจ เดินเพลินๆแปบเดียวจากต้นคลองก็ถึงท้ายคลอง ตลอดทางระหว่างเดินลัดเลาะริมคลองฝั่งหนึ่งจะเป็นอาคารโกดังเก่า เป็นเสน่ห์สร้างเอกลักษณ์ให้กับคลองอย่างชัดเจน ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นทางเดินที่ไว้สำหรับเดินกินลมชมวิวเลียบคลอง
หลังจากกินลมชมวิวเป็นที่พอใจแล้ว มาลุยกันต่อด้วยการเดินย้อนขึ้นมาแต่ใช้วิธีเดินเลาะไปตามถนนที่ขนานกับคลอง แล้วเดินไปทางซ้ายมือ เดินไปอีกสักประมาณ 15 นาที คุณก็จะไปเจอกับ แท่นน้ำพุ ที่ตั้งเด่นอยู่หน้าพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี สังเกตุง่ายๆ หน้าพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีจะมีนาฬิกาโบราณตั้งอยู่ด้านหน้า
พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี สถานที่ชวนฝันของสาวๆ และนักท่องเที่ยวที่รักเสียงกรุ๊งกริ๊งของกล่องดนตรี เมื่อเข้าไปถึง ก็ต้องตะลึงกับกล่องดนตรีจำนวนมาก หลากหลายรูปแบบ การเดินชมกล่องดนตรีนี้ช่างเพลิดเพลิน บรรเทิงใจ ไม่ว่าจะซ้าย ขวา หน้า หลัง ล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยกล่องดนตรี ไม่พลาดที่จะกดชัตเตอร์แบบรัวๆไปแทบทุกซอกทุกมุม
แต่จุดเด่นของพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรี คือ คุณสามารถจะประดิษฐ์กล่องดนตรีเป็นของคุณเองได้ DIY ได้ตามชอบ เริ่มด้วยการเลือก เลือกกล่อง, เลือกตุ๊กตาหรือของประดับตกแต่ง ที่สำคัญคุณสามารถเลือกเสียงเพลงได้หลากหลายรูปแบบ จากนั้นก็ชำระเงินแล้วก็เริ่มลงมือ DIY ได้เลย เพลินมากกับที่นี่ ทำให้เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนท้องร้องบ่งบอกว่า ได้เวลาต้องหาอะไรรับประทาน
ที่โอตารุ จะมีร้านอาหารหลากหลายพอสมควร เนื่องจากอากาศที่เย็น ทำให้ Little Angel มุ่งหน้าที่จะหาราเม็งร้อนๆ มาเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกาย เนื่องจากไม่มีการทำโพยหรือหาข้อมูลมาก่อน เพราะตั้งใจที่จะมาเดินชิวๆ เที่ยวโอตารุ แบบสบายๆ เลยไม่ได้ระบุว่าต้องมุ่งหน้าไปลิ้มลองราเม็งที่ร้านไหนเป็นพิเศษ และแล้วก็มาหยุดอยู่หน้าร้านหนึ่งมีทั้งราเม็งและข้าว จึงไม่รอช้าเลือกร้านนี้แหละเข้าไปข้างในกันเลย
ร้านราเม็งร้านนี้เป็นร้านไม่ใหญ่ แต่บรรยากาศดี เข้าไปปุ๊บก็มีพนักงานรีบพาไปนั่งที่โต๊ะ และส่งเมนูอาหารมาให้เลือก เป็นปกติของการสั่งราเม็งที่ญี่ปุ่น ก็จะมีการให้เลือกเส้นว่าจะกินเส้นแบบไหน และตามด้วยการเลือกน้ำซุป บอกตรงๆ Little Angel ลองสั่งไปเรื่อย และสุดท้ายหน้าตาของราเม็งมือนี้ก็ออกมาแบบนี้ ต้องทำตาโตเมื่อพนักงานมาเสิร์ฟ คือ ราเม็งร้านนี้ชามใหญ่มาก เห็นปุ๊บพูดออกมาทันทีว่า จะกินหมดไหมเนี่ย แต่ด้วยความหิวด้วยอร่อยด้วย ราเม็งชามโตก็หมดลงในไม่ช้า
อิ่มของคาวแล้ว ต้องไปตามล่าหาของหวานขึ้นชื่อของเมืองโอตารุกันต่อ ร้านที่กำลังจะไปตามหา มีความตั้งใจมากๆ ที่อยากจะไปลอง เพราะเป็นขนมขึ้นชื่อของเมืองโอตารุ คือ ชีสเค้ก นั่นเอง
ร้านชีสเค้กชื่อดังของเมืองโอตารุ คือ ร้าน Le TAO (ร้านนี้อ่านว่า เลอ ทา โอะ หรือ เลอ โถ แล้วแต่จะออกเสียง หากติดใจในรสชาติชีสเค้กร้านนี้ ไม่ต้องแบกกลับมาเมืองไทยแล้วก็ได้ เพราะตอนนี้ร้านนี้มีเปิดขายที่ สยาม พารากอน แล้ว) ที่ร้าน Le TAO ขึ้นชื่อมากเรื่องชีสเค้กที่หนานุ่ม กินแล้วละลายในปาก ทั้งความหอมและความหวานที่ลงตัว ทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากแวะเข้าไปลิ้มลอง และซื้อติดไม้ติดมือกลับไปกินต่อ คนชอบของหวาน แนะนำว่าต้องมาลอง
ที่โอตารุ ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวอีกหลายที่ที่น่าไป ได้แก่
- กระเช้าภูเขาเทนงุ Tenguyama Ropeway
- ศาลเจ้าซุอิเทนงุ Suitengu Shrine
- ย่านจัตุรัส Marchen Square
- ถนนช้อปปิ้งมิยาโกะ Miyako Dorimiya Line
- โรงงานเครื่องแก้ว Otaru Canalside Glass Factory
- พิพิธภัณฑ์เมืองโอตารุ Otaru City Museum
- ถนนซาไกมาจิ Sakaimachi Street
- หมู่บ้านชาวประมงปลาเฮอร์ริ่ง Herring Mansions
การเที่ยวเมืองโอตารุในวันนี้ครบรส ทั้งการเดินเที่ยวลัดเลาะริมคลองโอตารุ ช้อปกล่องดนตรีเป็นของที่ระลึกของฝาก ลิ้มรสชีสเค้กขึ้นชื่อ ถือว่าเป็นการเดินเที่ยวเมืองเล็กๆ 1 วัน ที่มีเสน่ห์และยังอยากกลับไปเยือนโอตารุ (Otaru)อีก สงสัยว่า คงหลงเสน่ห์โอตารุเข้าอีกแล้ว