ล่องเรือสำราญ Costa neoRomantica ญี่ปุ่น-เกาหลี ตอนที่ 2 : ก้มโค้ง ดูวิวสวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น Amanohashidate Maizuru (รีวิวล่องเรือสำราญ)
วันที 2 ของการล่องเรือสำราญ Costa neoRomantica เส้นทางญี่ปุ่น-เกาหลี วันนี้เรือจะแวะจอดที่เมือง Maizuru (ไมซุรุ หรือ มิเอะซุรุ) Little Angel และผองเพื่อนมีแผนจะไปเที่ยว จุดชมวิวที่สวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น นั่นคือ “Amanohashidate” วิธรการชมวิวที่จุดนี้ไม่ธรรมดา มีท่าพิเศษ ต้องตามไปดู
เนื่องจากวันนี้เรือจะจอดเที่ยบท่าประมาณ 13:30น. ดังนั้นช่วงเช้ากินข้าวเช้าและข้าวเทียง (ฟรี) บนเรืออย่างอิ่มหนำสำราญ พร้อมเดินเที่ยวตามห้องต่างๆ และแวะช้อปดิวตี้ฟรีพลางๆ รอเรือเทียบท่า ชอบแบบไหน มีกิจกรรมบนเรือมากมาย ดูจากโปรแกรมประจำวันได้
คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่เท่าเอกสารจริง อ่านชัด
คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่เท่าเอกสารจริง อ่านชัด
เริ่มต้นวันบนเรือด้วยมือเช้า วันนี้ Little Angel เลือกกินมื้อเช้าที่ห้องอาหารบุฟเฟต์ ชั้น 10 ห้องอาหารจะเปิดให้บริการตั้งแต่ 06:00น. – 11:00น.
เมนูในบุฟเฟ่ต์ มีทั้ง หมู เนื้อ ปลา ที่ปรุงเป็นอาหารหลากหลายชนิด ผัดผัก เต้าหู้ ขนมปัง หากชอบสไตล์ฝรั่ง ก็มีไส้กรอก เบคอน ไข่ต้ม ไข่คน มะเขือเทศย่าง มันฝรั่งอบ ขนมปัง แฮม ชีส หรือหากชอบสไตล์ญี่ปุ่น ก็มี ปลาซาบะย่าง/ทอด ข้าวต้ม ซุปมิโสะ ผัดมะเขือม่วงญี่ปุ่น นัตโต๊ะหรือถั่วเน่าญี่ปุ่น หรืออยากกินมื้อเช้าแบบเบาๆ ก็มีสลัดผัก คอนเฟล็ก นมสด อาหารเช้าเมนูกว่า 50 รายการ เชฟบรรจงปรุงกันสดๆ ใหม่ๆ สลับเสิร์ฟบนเคาน์เตอร์บาร์อาหาร พร้อมให้นักท่องเที่ยวเลือกตักไปกินตามต้องการ
ส่วนของหวาน คัพเค้ก ทาร์ตผลไม้ โดนัทหรือครัวซองหลากไส้ และผลไม้สด เมล่อน กีวี แอปเปิ้ล เสิร์ฟกันไม่อั้น สรุปอิ่มพุงกางตั้งแต่มื้อเช้า
อิ่มจากมื้อเช้า ก็เดินย่อยตามห้องต่างๆ บนเรือ แวะช้อปปิ้งที่ Duty Fee บนเรือ เดินชมวิวบนชั้นดาดฟ้าของเรือ และกลับมานั่งชิวๆ ที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มที่ชั้น 8
เวลาผ่านไปเร็ว ก็ได้เวลาอาหารเที่ยง ประมาณ 11:30น. ห้องอาหารก็เริ่มให้บริการอาหารเที่ยง Little Angel และผองเพื่อนตั้งใจจะกินมื้อเที่ยง (ฟรี) บนเรือ เมื่อเรือเทียบท่าเวลา 13:30น. จะได้ลงเรือพร้อมออกไปเที่ยวได้เลย
เพื่อไม่ให้เสียเวลาจึงเลือกมื้อเที่ยงแบบบุฟเฟ่ต์อีกรอบ ตั้งใจจะกินอะไรเล็กๆ น้อยๆ เป็นมื้อเที่ยงเพราะยังอิ่มมากจากมื้อเช้าอยู่ แต่ด้วยหน้าตาอาหารทำให้อดใจไม่อยู่ จัดหนักมื้อเที่ยงอีกแล้ว มื้อนี้มีทั้งสเต็กเนื้อแกะ (ไม่สาปมาก) หมูกรอบที่กรอบนอกนุ่มใน หั่นเป็นชิ้นๆ ให้เลือกหยิบเอง แต่ที่ติดใจมากๆ คือ ชีสเบอเกอร์ ขนมปังที่นุ่มและเนื้อแฮมรสชาติกำลังดี ทำให้อดใจไม่อยู่ กินไปตั้ง 2 ชิ้น อิ่มพุงกางอีกแล้วมื้อนี้ ส่วนใครยังติดใจ ขนมปัง แฮม สลัดผัก พาสต้า ลาซานญ่า ปลาซาบะย่าง มิโสะซุป ขนมหวาน ผลไม้สด เยอะกว่ามื้อเช้าขึ้นไปอีก ไปดูหน้าตาเมนูกลางวันบนเรือสำราญ Costa neoRomantica กันว่า น่ากินและหลากหลายแค่ไหน
ใช้เวลากับมื้อเที่ยงไม่นาน กินไปชมวิวทะเลไป ก็ได้เวลาเรือเทียบท่า ก่อนลงจากเรือให้เพื่อนถ่ายรูปตัวเองว่า แต่งตัวอยู่บนเรืออย่างไรมาฝาก เพราะบนเรือกฎระเบียบเหมือนจะเยอะ แต่จริงๆ แล้วไม่ยุ่งยาก เช่น เรื่องการแต่งกาย จะใส่เสื้อกล้าม สายเดี่ยว แขนสั้น แขนยาว กระโปรง กางเกงขายาวหรือกางเกงขาสั้น ก็ไม่ผิดอะไร แค่อย่าสวมรองเท้าแตะ เดินเที่ยวบนเรือ จะถือว่าไม่สุภาพ กินอิ่ม เตรียมพร้อมลงจากเรือไปเที่ยวเมือง Maizuru เมืองที่นี่มีจุดชมวิวที่สวยติด 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น จะพาไปดูให้เห็นกับตาว่าสวยแค่ไหน (ทางออกของเรือจะอยู่ที่ ชั้น 3)
Maizuru เป็นเมืองติดทะเลของจังหวัดเกียวโต (Kyoto) ที่ Maizuru มีสถานที่ท่องเที่ยวติดทะเลหลายที่ แต่สถานที่ที่ต้องไปให้ได้เมื่อมาที่เมือง Maizuru คือ Amanohashidate ที่นี่เป็นจุดชมวิวที่สวยติด 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่นนั่นเอง
บริเวณท่าเรือ Maizuru จะมีเจ้าหน้าที่ให้บริการข้อมูลด้านการท่องเที่ยว คอยบริการอย่างยิ้มแย้มแจ่มใส และมีบริการ Shuttle Bus ให้บริการระหว่างท่าเรือ กับ สถานีรถไฟ Nishi-Maizuru
วิธีการเดินทางจากท่าเรือ Maizuru ไปสถานีรถไฟ Amanohashidate
- จากท่าเรือ Maizuru มีบริการ Shuttle Bus ไปยังสถานีรถไฟ Nishi-Maizuru ค่ารถ ผู้ใหญ่คนละ 200 เยน เด็กคนละ 100 เยนต่อเที่ยว รถจะไปจอดที่หน้าสถานีรถไฟ Nishi-Maizuru (รถ Shuttle Bus ให้บริการตั้งแต่ 13:30-21:00น.) ใช้เวลา่เดินทางประมาณ 15 นาที
- นั่งรถไฟจากสถานี Nishi-Maizuru ไปลงที่สถานี Amanohashidate ค่ารถไฟ ผู้ใหญ่คนละ 640 เยน เด็กคนละ 320 เยน ต่อเที่ยว) ใช้เวลาเดินทางประมาณ 50 นาที
เมื่อมาถึงสถานีรถไฟ Nishi-Maizuru ก็รีบไปซื้อตั๋ว แต่เนื่องจากรถไฟจะมาเป็นรอบ ทำให้มีเวลาเดินสำรวจด้านหน้าและด้านในของสถานีรถไฟเล็กน้อย
การเดินทางไป Amanohashidate ครั้งนี้ได้นั่งรถไฟจะได้นั่น รถไฟสายสำคัญที่เรียกว่า “Kyoto Tango Railway” หรือเรียกสั้นๆ ว่า “Tantetsu” ซึ่งเป็นรถไฟที่เชื่อมโยงไปยังสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆ ของเกียวโต มีสายต่างๆ ดังนี้
- Kuro-matsu
- Aka-matsu
- Ao-matsu
- tango no umi
หน้าตาของรถไฟสวยงาม ดูมีเสน่ห์มาก โดยจะนั่งจากสถานี Nishi-Maizuru ไปลงที่สถานี Amanohashidate ใช้เวลาเดินทางทั้งหมดประมาณ 50 นาที ไปกันเลย
ชมวิวสองข้างทางกันเพลินๆ ประมาณ 50 นาที ก็มาถึงสถานี Amanohashidate
การเดินทางไปยังจุดชมวิว Amanohashidate ก็ไม่ยาก สรุปง่ายๆ ดังนี้
- ออกจากสถานี Amanohashidate ให้เดินไปทางขวา เดินไปจนถึงสามแยกที่ 1 ไม่ต้องเลี้ยวไปไหน เดินตรงต่อไปถึงสามแยกที่ 2
- เลี้ยวขวาที่สามแยกที่ 2 จะมีป้ายบอกทางไปจุดชมวิว Amanohashidate ชัดเจน ถ้าเดินมาถูกทางจะเจอทางรถไฟ
- ข้ามทางรถไฟ จะเจอป้ายบอกทางไปจุดชมวิว Amanohashidate ให้เดินตามป้ายไปทางขวา
- เดินต่อประมาณ 100 เมตร ก็จะพบกับจุดจำหน่ายตั๋วขึ้นไปจุดชมวิว Amanohashidate อยู่ด้านซ้ายมือ
ราคาตั๋วขึ้นชมจุดชมวิว จะเป็นแบบตั๋ว ไป-กลับ
- ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ คนละ 850 เยน
- เด็กและนักเรียน คนละ 450 เยน
- เด็กคนแรก ฟรี แต่คนที่ คิดราคาปกติ 450 เยน
จากตรงจุดจำหน่ายตั๋ว จะมีวิธีการขึ้นไปยังจุดชมวิว Amanohashidate ให้เลือก 2 วิธี คือ
- กระเช้าลอยฟ้า (monorail) ใช้เวลาประมาณ 7 นาที (มีเป็นรอบ)
- เก้าอี้ลอยฟ้า (Chair Lift) ใช้เวลาประมาณ 6 นาที (เปิดวนบริการเรื่อยๆ)
วันนี้เลือกนั่งแบบ เก้าอี้ลอยฟ้า (Chair Lift) จะเหมือนนั่งเก้าอี้ ห้อยขา ทีละ 1 คนต่อ 1 เก้าอี้ ลอยขึ้นไปด้านบน หากมีสัมภาระ จะต้องเอาไว้ด้านหน้าของตนเอง ชมวิวเพลินๆ
มาถึงแล้วจุดชมวิว Amanohashidate จุดชมวิวที่ได้รับการกล่าวขานว่า วิวสวยติด 1 ใน 3 ของประเทศที่ปุ่น อยู่ที่นี่คือ Amanohashidate นั่นเอง
Amanohashidate หรือบางครั้งเรียกว่า “สะพานไปสู่สรวงสวรรค์” (Bridge to heaven) เป็นแนวสันทรายอายุกว่า 100 ปี ระยะทางของสันทรายทั้งหมด 3.6 กิโลเมตร ถ้าอยากเดินบนสันทรายข้ามฝั่ง ใช้เวลาประมาณ 50 นาที หรือจะเลือกขี่จักรยานข้าม ก็ใช้เวลาประมาณ 20 นาที ชมวิวต้นสน 8,000 ต้นที่ขึ้นอยู่ตามสันทรายอย่างสวยงาม ที่นี่ ถือเป็น Landmark ของทางตอนเหนือของเกียวโต เป็นจุดที่ได้รับการยกย่องว่า เป็นจุดชมวิวที่สวยติด 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น ทำให้นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างพากันมาเยือนที่นี่ “Amanohashidate”
วิธีการชมวิว
วิธีการชมวิวที่นี่ไม่ธรรมดา จะมีท่าพิเศษเป็นเอกลักษณ์เฉพาะที่นี่ หรือที่เรียกว่า Matonozoki คือ ให้คุณหันหลังให้กับทะเลแล้วก้มโค้งมองวิวลอดขาของคุณ จะเห็นภาพวิวสันทรายกลับหัวคล้ายสะพานที่ทอดจากโลกไปยังสรวงสวรรค์ หรือ Bridge to heaven
บริเวณด้านบนของจุดชมวิว Amanohashidate เป็น Viewland และ สวนสนุกหรือ Theme Park เล็กๆ อยู่บนภูเขา Monju ทำให้คุณและครอบครัวสามารถมาทำกิจกรรมได้มากกว่าการแค่ขึ้นมาชมวิวสวยๆ หลายกิจกรรม
กิจกรรมโยนหินเสี่ยงทาย
จุดแรก กิจกรรมโยนหินเสี่ยงทาย จะเห็นแท่งไม้มีวงกลมใหญ่ๆ เป็นรูตรงกลาง วิธีการ คือ คุณจะต้องโยนหินที่วางไว้ที่จุดบริการ (ค่าบริการ 300 เยน สำหรับหิน 3 ก้อน บริการตนเองนะ หยิบเอง แล้วหยอดเงินไว้) จากนั้นก็แค่ อธิษฐาน แล้วตั้งใจโยนหินให้เข้าผ่านรูตรงกลางให้ได้ ระยะก็ไม่ไกล รูก็ใหญ่ แต่มีทั้งคนที่โยนผ่านและไม่ผ่าน แล้วแต่ดวงและฝีมือของแต่ละคน
จากกิจกรรมโยนหินเสี่ยงทาย ไปต่อกันที่กิจกรรมอื่นๆ เลือกตามชอบ ค่าบริการก็ไม่แพง ชอบขี่จักรยาน ต้องลองขี่จักรยานลอยฟ้า จุดชมวิวว่าอยู่สูงแล้ว ขี่จักรยานลอยฟ้าสูงขึ้นไปอีก หรือยังสูงไม่พอก็ลองนั่งชิงช้าสวรรค์สักรอบสองรอบ
แต่ต้องห้ามพลาด การเดินบนทางเดินลอยฟ้าบน Amanohashidate Viewland ชมวิวแบบ 360 องศาก็เป็นที่นิยม
ชมวิวและทำกิจกรรมบน Amanohashidate Viewland จนเต็มอิ่ม ก็ตัดสินใจลง จะไปเที่ยวแถวถนนคนเดินต่ออีกหน่อยก่อนกลับท่าเรือ ตั๋วที่ซื้อมาจากด้านล่าง สามารถใช้สำหรับขาลงได้เลย ไม่ต้องซื้อใหม่ ดังนั้นต้องเก็บให้ดี
เมื่อลงมาสู่ด้านล่าง การเดินทางไปยัง ถนนคนเดิน ก็ไม่ยาก จริงๆ ตอนที่เดินมาจุดชมวิว เราก็เดินผ่านมาแล้ว ดังนั้นเดินย้อนกลับทางเก่า ข้ามทางรถไฟ มาเจอสามแยกให้เลี้ยวซ้าย เดินต่อมาอีกนิด จะเห็นซอยใหญ่ อยู่ด้านขวามือ สังเกตง่าย เพราะจะมีนักท่องเที่ยวเดินเที่ยวอยู่ อยากช้อป ของกิน ของใช้ ของฝากที่นี่มีให้เลือกเยอะ
ห้ามพลาด เครื่องดื่ม Cider น้ำกลิ่นผลไม้ ซ่าๆ เย็นๆ กินแล้วชื่นใจ ดับร้อนได้ดี ใครชอบสไตล์นี้ แนะนำให้ลอง
เมืองนี้มีร้านเช่าจักรยานด้วย อยู่ที่ถนนคนเดิน Amanohashidate เช่าขี่เที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ ในเมือง Amanohashidate ได้
ทั้งเที่ยวทั้งช้อปครบ ก็ได้เวลากลับขึ้นเรือ ขากลับก็ไม่ยาก
- เดินกลับไปที่สถานี Amanohashidate
- ขึ้นรถไฟกลับไปที่สถานี Nishi-Maizuru
- ขึ้น Shuttle Buus ตรงจุดที่ลง มีป้ายบอกชัดเจน อยู่หน้าสถานีรถไฟ Nishi-Maizuru กลับไปยังท่าเรือ Maizuru
กลับมาขึ้นเรือตอนเย็น ดังนั้น วันนี้กินมื้อเย็น (ฟรี) บนเรือ เก็บข้าวของที่ห้องพัก จากนั้นก็ไปที่ห้องอาหารชั้น 10 มื้อเย็นวันนี้ ขอเลือกแบบบุฟเฟ่ต์ อีกมื้อ จะได้เห็นความหน้าตาแต่ละมื้อในห้องอาหารบุฟเฟต์แบบครบทั้งวัน แต่ด้วยความหิว ทำให้ถ่ายรูปไม่ครบทุกรายการอาหารซึ่งมีมากกว่า 50 เมนู หลายเมนูแตกต่างไปจากมื้อเช้าและมื้อกลางวัน ทำให้ไม่น่าเบื่อ
ยังไม่หมดวัน บนเรือสำราญ Costa neRomantica มีบริการอาหารว่างมื้อดึก จะเรียกว่าอาหารว่าง ก็จะดูไม่สมกับอาหาร เพราะเมนูมื้อดึกวันนี้ เป็น “ราเม็ง” น้ำข้นและน้ำใส นอกจากนั้นยังมี ของทอด, ของหวาน, สลัดผัก เสิร์ฟรอบดึกด้วย อาหารทั้งหมดที่เห็นในรีวิววันนี้ ฟรีหมดรวมในแพคเก็จเรือแล้ว ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม สรุปง่ายๆ เที่ยวเรือมีของให้กินเกือบทั้งวัน อิ่มตั้งแต่เช้าจนดึก ทั้งกินอิ่ม เที่ยวสนุก หมดเวลา 1 วันอย่างรวดเร็ว ดังนั้นวันนี้ขอตัวไปนอน พรุ่งนี้จะลงเที่ยวเมือง Kanazawa จะไปเที่ยวสวนที่สวยติดอันดับ 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น และเที่ยวปราสาท Kanazawa พร้อมพาไปกินซูชิร้านดังของเมือง Kanazawa รอติดตามชมกันได้ในรีวิวตอนต่อไป
ติดตามรีวิวตลอดทริปได้ที่ลิ้งด้านล่างค่ะ :
- ตอนที่ 1 : ล่องเรือสำราญ(บานใจ) กินหนัก พักเต็ม (รีวิวล่องเรือละเอียดยิบ)
- ตอนที่ 2 : ก้มโค้ง ดูวิวสวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น Amanohashidate Maizuru
- ตอนที่ 3 : เที่ยว Kanazawa ชมสวนสวยติดอันดับต้นๆของญี่ปุ่นและ Kanazawa castel แวะกินซูชิร้านดังที่ Omi-cho ร่วม GALA NIGHT บนเรือ พบกัปตันตัวเป็นๆ
- ตอนที่ 4 : เทคนิคเอาตัวรอดจาก ตม.เกาหลี – ช้อปปิ้งย่าน Seomyeon – ดินเนอร์ Lobster ตัวละ 300 กว่าบาท – วิธีเตรียมกระเป๋าลงจากเรือ
- ตอนสุดท้าย : ไม่ต้องรีบมาสนามบิน เปิดให้เชคอินก่อน 2 ชั่วโมงเท่านั้น และเก็บตกรีวิว การบินไทย ฟุกุโอกะ-สุวรรณภูมิ
ข้อมูลที่เที่ยวเมือง Maizuru
คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขนาดใหญ่เท่าเอกสารจริง อ่านชัด